วิธีการอัพเกรด iPhone, iPod touch, iPad เป็น iOS5
คำเตือนก่อนอัพเดทเฟิร์มแวร์เป็น iOS5 ควรฝากไฟล์เอกสารต่างๆจากเครื่อง iOS ของคุณลงคอม หรือฝากผ่าน Dropbox ไว้เพราะขั้นตอนอัพเฟริมแวร์นี้จะเหมือนการรีเซทเครื่องใหม่หมด แอพที่คุณโหลดก็อาจหายได้ (แต่แอพที่ซื้อมาแล้ว สามารถโหลดใหม่ได้ฟรี ไม่ต้องเสียเงินอีกรอบ)สำหรับอุปกรณ์ที่จะใช้ในการอัพเดทมีดังนี้
เข้าสู่โปรแกรม iTunes 10.5 แล้วทำการคลิก Update จะปรากฏหน้าต่างอันใหม่ เลือก Continue เพื่อตรวจสอบเวอร์ชั่นล่าสุด ก็คือ iOS5 นั่นเอง โปรแกรมจะเริ่มทำการดาวน์โหลด ใช้เวลาสักครึ่งชั่วโมง โดยในตัวอย่างที่เห็นนี้จะเป็นการอัพเดทเฟิร์มแวร์สำหรับ iPad 2 รุ่น Wi-Fi เมื่อทำการดาวน์โหลดเสร็จ ก็จะเริ่มทำการ Backup สำรองข้อมูลจาก iPad2 (หรืออุปกรณ์ iOSอื่นที่กำลังอัพเดทเฟิร์มแวร์ ) เข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือ Notebook ของเรา แล้วก็รอกันสักครู่ ระหว่างนั้น iPad จะรีสตาร์ทและพร้อมสำหรับอัพเดทเฟิร์มแวร์โดยอัตโนมัติ รอไปเรื่อยๆ เพราะ iTunes จะติดตั้งเฟิร์มแวร์ลงใน เจ้าอุปกรณ์ iOS ของคุณเอง
หน้าจอแรกเริ่มการตั้งค่าเครื่อง iOS (ในภาพนี้เป็นการตั้งค่า iPad แต่ทุกอุปกรณ์ iOS ขั้นตอนการตั้งค่าเหมือนกันหมด ) ให้คุณแตะที่ “ ทำต่อ”
เลือกเครือข่าย Wi-Fi ที่คุณใช้งานอยู่แล้ว แตะปุ่ม”ถัดไป” ที่อยู่ด้านขวาบนของจอ
แล้วลงชื่อ Apple ID ของคุณที่ใช้กับอุปกรณ์ตัวนี้
กรอกอีเมลล์ Apple ID ที่คุณได้ใช้กับอุปกรณ์ iOS ของคุณ
จะเข้าสู่หน้าสัญญาต่างๆจาก Apple อีกครั้งบนเครื่อง iOS ของคุณ ให้แตะที่ “ยินยอม”
ก็จะปรากฎหน้า Pop-Up เตือนอีกครั้ง ให้แตะที่ ยินยอม เพื่อดำเนินขั้นตอนต่อไป ระบบจะใช้เวลาสัก 2-3 นาทีในการตั้งค่า รอสักครู่จะเข้าสู่หน้าจอถัดไป… เข้าสู่การตั้งค่า ว่าจะใช้ iCloud หรือไม่ อันนี้แล้วแต่ผู้ใช้ ( แต่ส่วนใหญ่จะเลือกใช้ iCloud เพราะมันเป็นบริการใหม่ที่มากับ iOS5) หากตอบใช้ iCloud จะถามว่ารวมเข้ากับ iCloud หรือไม่ ตอบว่า “รวมเข้าด้วยกัน”
แล้วจะเข้าสู่การตั้งค่า Find My iPad เครื่องจะถามว่าจะเปิดบริการค้นหา iPad ของฉัน ( Find My iPad หรือไม่) อันนี้แล้วแต่ แต่ถ้าหากหวง iPad มากจริงๆ ควรตอบ ใช้ “ค้นหา iPad ของฉัน” (ความจริงแล้วแต่อุปกรณ์ เช่น iPhone , iPod Touch จะถามว่าจะเปิดบริการ Find My iPhone , iPod Touch หรือไม่)
สุดท้ายจะเป็นเรื่องรายงานเครื่องของเราว่า ต้องการส่งการวินิจฉัยและการใช้งานให้กับ Apple หรือไม่ อันนี้แล้วแต่ผู้ใช้ แต่ถ้าหากเลือก “ส่งอย่างอัตโนมัติ” ทันทีที่เครื่องเกิดปัญหาการใช้งาน จะมีการรายงานส่งปัญหานี้ให้ Apple อย่างอัตโนมัติ แล้วมาถึงหน้าจอสุดท้ายในการตั้งค่า iOS ก็แตะที่เริ่มการใช้งาน iPhone , iPad , iPod Touch
แค่นี้ก็จะเข้าสู่หน้าจอหลักที่คุณคุ้นเคย พร้อมกับแอพตัวใหม่ที่มากับ iOS5 อย่างเช่น ข้อความ (iMessage) , เตือนความจำ (Notification Center) แผงหนังสือพิมพ์ (Newsstand) และความสามารถอื่นๆใหม่ๆอีกมากมายแล้ว
สำหรับผู้ที่มีปัญหาติดตั้งเฟิร์มแวร์แล้วแอพไม่ทำงานเชื่อว่ามีหลายท่านได้ทำตามขั้นตอนจน ติดตั้ง iOS5 เสร็จสมบูรณ์แต่เวลาดึงออกจากสายเชื่อมต่อมาใช้ลองเล่นแอพแล้วปรากฎว่าบางท่านพบปัญหา เลือกแอพแล้วแต่ไม่ทำงานเลย จะทำอย่างไรดี ให้ลองทำตามขั้นตอนนี้อีกครั้งดังนี้1. ให้ทำการนำสาย usb เชื่อมระหว่างอุปกรณ์ iOS ของคุณ เชื่อมกับคอมพิวเตอร์ของคุณอีกครั้ง แล้วเปิดโปรแกรมiTunes10.5 อีกครั้งหนึ่ง 2. เลื่อนเมาส์เลือกตรง Device เลือกตรงอุปกรณ์ iOS ของท่าน คลิกขวาเลือก “Restore From Backup…” 3. เลือกชื่อ iOS ของคุณที่คุณตั้งชื่อไว้ แล้วเลือก Restore เพื่อทำการกู้คืนไฟล์และแอพ ฝากไว้ในเครื่องคอมของเรา ใส่ในอุปกรณ์ iOS อีกครั้ง แล้วทำการตั้งค่า ใหม่ตามขั้นตอนการตั้งค่าด้านบนอีกครั้งหนึ่ง 4. หลังทำการตั้งค่าเสร็จแล้ว ลองดึงสาย usb ออกแล้วทดสอบกับอุปกรณ์ iOS (iPhone , iPad iPod touch) อีกครั้ง ข้อมูลจาก http://www.it24hrs.com |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น